อาการมะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูกถือเป็นภัยที่น่ากลัวสำหรับผู้หญิง เพราะในช่วงแรกของการเกิดมะเร็งปากมดลูกมักจะไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ หรืออาการที่เด่นชัดจนมะเร็งแพร่กระจาย ซึ่งกว่าผู้ป่วยจะรู้ตัวก็มักเข้าสู่ระดับรุนแรงแล้วแต่สาวๆ ไม่ต้องกังวลไป เพราะหากเราหมั่นตรวจกับแพทย์เฉพาะทางเพื่อหาความผิดปกติของมดลูกและอวัยวะภายในของสตรีตั้งแต่ยังไม่มีอาการ ก็จะสามารถตรวจพบโรคหรือความเสี่ยงได้ตั้งแต่ระยะแรกๆ และการรักษาก็มักจะได้ผลดี
โดยส่วนใหญ่แล้วมะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) แม้จะมีหลายสายพันธุ์ แต่ก็มีสายพันธุ์หลักที่ทำให้เกิดมะเร็งในอวัยวะสืบพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง HPV 16 และ 18 ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งปากมดลูก โดยไวรัสชนิดนี้สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสทางผิวหนัง ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสติดเชื้อไวรัสสูงถึงร้อยละ 80 เลยทีเดียว
ใครที่เสี่ยง “มะเร็งปากมดลูก”
ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย เป็นช่วงอายุที่มีความไวต่อการติดเขื้อไวรัส HPV
ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายๆ คน จะเพิ่มโอกาสการติดเชื้อ HPV
ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีภรรยาหรือคู่นอนที่เป็นมะเร็งปากมดลูก
ผู้หญิงหรือผู้ชายที่เป็นคู่นอน เป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เริม หนองใน หูด
ผู้หญิงที่มีโรคที่ทำให้ภูมิต้านทานต่ำ เช่น โรคเอดส์ (HIV)
อาการเตือนที่ต้องระวัง!
โดยทั่วไปแล้วหากพบมะเร็งปากมดลูกในระยะแรกเริ่มการรักษาก็มักได้ผลดี อาการสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงตัดสินใจมาพบแพทย์
ก็คือ การมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด แต่ก่อนจะถึงจุดนั้น ควรหมั่นสังเกตตัวเองจากอาการเตือนเหล่านี้
- มีเลือดออกระหว่างมีเพศสัมพันธ์
- มีเลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือน
- มีของเหลวปนเลือด ออกทางช่องคลอด
มีอาการปวดท้องน้อย - มีอาการเจ็บระหว่างมีเพศสัมพันธ์
- ตกขาวมีความผิดปกติ
- ประจำเดือนมาน้อย หรือมามากผิดปกติ
- อ่อนเพลีย ซีด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
- มีการบวม
- ปัสสาวะไม่ออก หรือไหลไม่หยุด
หากพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกต้องทำอย่างไร?
หากมะเร็งเกิดขึ้นในระยะแรก การผ่าตัดเป็นวิธีการที่ได้ผลดีเป็นอย่างมาก แต่หากเกิดขึ้นในระยะลุกลามมากแล้ว จะใช้รังสีช่วยในการฉายแสงร่วมกับการใส่แร่ หรือการผสมผสานระหว่างการผ่าตัดการฉายรังสี และการให้ยาเคมีบำบัด โดยทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญจะเป็นผู้พิจารณาร่วมกับผู้ป่วย
ตรวจ HPV ลึกถึงระดับ DNA ช่วยได้ !!
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแบบเจาะลึกถึงระดับ DNA ด้วย Thin Prep Plus Cervista HPV DNA Testing เป็นการตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกร่วมกับตรวจดีเอ็นเอของเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ความสัมพันธ์กับการเป็นมะเร็งปากมดลูก ร่วมกับการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV 16 และ HPV 18 การตรวจด้วยวิธีนี้จะช่วยบอกความเสี่ยงต่อการมีรอยโรคแฝง เพื่อหาทางลดความเสี่ยงหรือรักษาอย่างทันท่วงที
ป้องกันตัวเองง่ายๆ ด้วยวิธีเหล่านี้…
- หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน
- ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
- เมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น ตกขาวผิดปกติ เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ควรมาพบแพทย์
- หมั่นตรวจคัดกรองมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูกอย่างน้อยปีละครั้ง