ชนิดของพยาธิที่พบบ่อยในประเทศไทย
-
พยาธิตัวกลม
เช่น พยาธิไส้เดือน พยาธิเข็มหมุด พยาธิปากขอ-
การติดต่อ: การกลืนไข่พยาธิจากดิน อาหาร หรือน้ำที่ปนเปื้อน
-
ผลกระทบ: ท้องเสีย ปวดท้อง โลหิตจาง
-
-
พยาธิตัวแบน
เช่น พยาธิใบไม้ตับ (Opisthorchis viverrini)-
การติดต่อ: รับประทานปลาน้ำจืดดิบหรือสุกๆ ดิบๆ
-
ผลกระทบ: โรคตับอักเสบ เสี่ยงต่อมะเร็งท่อน้ำดี
-
-
พยาธิตัวตืด
เช่น Taenia saginata, Taenia solium-
การติดต่อ: การกินเนื้อวัวหรือเนื้อหมูที่ปรุงไม่สุก
-
ผลกระทบ: ปวดท้อง ถ่ายพยาธิออกมาเป็นปล้อง อาจลุกลามไปสมองในกรณี T. solium
-
อาการของโรคติดเชื้อจากพยาธิ
ผู้ติดเชื้อพยาธิอาจมีอาการหลากหลาย ขึ้นอยู่กับชนิดของพยาธิและปริมาณที่ติดเชื้อ
-
ปวดท้อง แน่นท้อง ท้องเสียเรื้อรัง
-
อ่อนเพลีย น้ำหนักลด
-
คันก้นในเวลากลางคืน (ในกรณีของพยาธิเข็มหมุด)
-
ภาวะโลหิตจางจากการดูดเลือด (เช่น พยาธิปากขอ)
-
ดีซ่าน หรือตับโต (กรณีพยาธิใบไม้ตับ)
แนวทางการป้องกัน
-
หลีกเลี่ยงอาหารดิบ
-
ไม่ควรบริโภคปลาน้ำจืดดิบ เช่น ปลาร้า ปลาส้ม ปลานึ่งไม่สุก
-
เลือกบริโภคเนื้อหมูหรือเนื้อวัวที่ปรุงสุกเท่านั้น
-
-
รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล
-
ล้างมือด้วยสบู่ก่อนรับประทานอาหาร และหลังเข้าห้องน้ำ
-
ใช้ห้องน้ำที่ถูกสุขลักษณะ
-
-
ควบคุมแหล่งแพร่เชื้อ
-
ป้องกันการถ่ายอุจจาระลงบนพื้นดิน
-
กำจัดพยาธิในสัตว์เลี้ยง และควบคุมการขับถ่ายของสัตว์
-
-
ดื่มน้ำสะอาด
-
ใช้น้ำดื่มที่ต้มสุก หรือผ่านการกรองฆ่าเชื้อแล้วเท่านั้น
-
การวินิจฉัยและการรักษา
การวินิจฉัย
-
การตรวจอุจจาระเป็นวิธีมาตรฐานสำหรับการวินิจฉัยการติดเชื้อพยาธิ
-
ในบางกรณี อาจต้องใช้การตรวจเลือด หรือภาพถ่ายทางรังสี
การรักษา
-
แพทย์จะพิจารณาใช้ยาถ่ายพยาธิเฉพาะกลุ่ม เช่น
-
Albendazole หรือ Mebendazole สำหรับพยาธิตัวกลม
-
Praziquantel สำหรับพยาธิตัวแบน
-
-
การใช้ยาในปริมาณและระยะเวลาที่เหมาะสมภายใต้คำแนะนำของแพทย์เป็นสิ่งจำเป็น
-
การรักษาอาการแทรกซ้อน เช่น โลหิตจาง หรือภาวะขาดสารอาหาร อาจจำเป็นในรายที่เป็นเรื้อรัง