โรคฮิคิโคโมริ (Hikikomori)
เมื่อการเก็บตัวกลายเป็นภัยเงียบทางสุขภาพจิต
ฮิคิโคโมริ (Hikikomori) เป็นภาวะที่บุคคลแยกตัวออกจากสังคมอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง โดยใช้เวลาอยู่แต่ในห้องหรือบ้านนานเกิน 6 เดือน ไม่เรียน ไม่ทำงาน และไม่ปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างชัดเจน โดยมักเกิดขึ้นในวัยรุ่นจนถึงวัยทำงานตอนต้น
แม้จะเริ่มพบมากในประเทศญี่ปุ่น แต่ในปัจจุบัน ภาวะนี้เริ่มปรากฏในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่เผชิญกับแรงกดดันทางการศึกษา เศรษฐกิจ หรือปัญหาภายในครอบครัว
สาเหตุของโรคฮิคิโคโมริ
-
ความเครียดสะสมจากการเรียนหรือทำงาน
-
ประสบการณ์ล้มเหลวหรือผิดหวัง
-
ความคาดหวังจากครอบครัวหรือสังคม
-
การถูกบูลลี่ หรือประสบการณ์ลบทางสังคม
-
ภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวลที่ไม่ได้รับการดูแล
-
ปัญหาครอบครัวหรือขาดการสนับสนุนทางอารมณ์
อาการที่ควรสังเกต
-
แยกตัวอยู่ในห้องเป็นเวลานาน ไม่ออกไปข้างนอก
-
ไม่เรียน ไม่ทำงาน และไม่เข้าสังคม
-
หลีกเลี่ยงการพูดคุยแม้แต่กับคนในครอบครัว
-
พฤติกรรมซ้ำซาก เช่น ติดเกม นอนดึก ตื่นสาย
-
เฉยชา ขาดแรงจูงใจ ไม่สนใจอนาคต
-
อาจมีอาการร่วมของโรคซึมเศร้าหรือวิตกกังวล
แนวทางการป้องกัน
-
ส่งเสริมความเข้าใจและเปิดใจรับฟังในครอบครัว
-
ไม่ตัดสินหรือตั้งความคาดหวังมากเกินไป
-
เปิดโอกาสให้แสดงออกในทางที่สร้างสรรค์
-
สังเกตสัญญาณความผิดปกติทางพฤติกรรมแต่เนิ่น ๆ
-
ส่งเสริมทักษะทางสังคม และการปรับตัวต่อแรงกดดัน
แนวทางการรักษา
-
เข้ารับคำปรึกษาทางจิตเวช เพื่อประเมินอาการอย่างเป็นระบบ
-
การบำบัดพฤติกรรมและความคิด (CBT) เพื่อปรับมุมมองและลดความวิตกกังวล
-
การบำบัดร่วมกับครอบครัว เพื่อสร้างความเข้าใจและสนับสนุนที่เหมาะสม
-
ส่งเสริมการกลับเข้าสังคมอย่างค่อยเป็นค่อยไป ด้วยกิจกรรมกลุ่มหรือโปรแกรมฟื้นฟู
-
ในบางกรณี อาจมีการใช้ยา เช่น ยาต้านเศร้าหรือยาคลายกังวล ตามดุลยพินิจของแพทย์
ข้อควรจำ
โรคฮิคิโคโมริไม่ใช่ความผิดของผู้ป่วย แต่เป็นภาวะที่ต้องการความเข้าใจและการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม หากพบว่าบุคคลใกล้ตัวมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพจิตโดยเร็ว เพราะ “การดูแลใจ” คือจุดเริ่มต้นของชีวิตที่ดีและสมดุล