การป้องกันโรคมือ เท้า ปาก

โรคมือ เท้า ปาก

โรคมือ เท้า ปาก (Hand, Foot and Mouth Disease – HFMD) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่เชื้อไวรัสแพร่กระจายได้ง่าย โดยเชื้อก่อโรคส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเอนเทอโรไวรัส (Enterovirus) เช่น Coxsackievirus A16 และ Enterovirus 71 ซึ่งสามารถติดต่อกันได้อย่างรวดเร็วในกลุ่มเด็กที่อยู่ร่วมกันในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือโรงเรียนอนุบาล

สาเหตุและการติดต่อ

เชื้อไวรัสสามารถติดต่อกันผ่านทางน้ำลาย น้ำมูก อุจจาระ หรือจากการสัมผัสของเล่น สิ่งของ หรือพื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส รวมถึงการไอหรือจามโดยตรงใส่กัน โรคนี้สามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วในชุมชนที่มีเด็กอยู่รวมกันจำนวนมาก

อาการของโรค

อาการเริ่มต้นมักจะมีไข้ต่ำถึงปานกลาง เด็กอาจซึม เบื่ออาหาร และมีแผลในช่องปาก ซึ่งทำให้ไม่ยอมกินอาหารหรือดื่มน้ำ ต่อมาอาจมีผื่นหรือตุ่มน้ำใสขึ้นบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือรอบก้น อาการโดยทั่วไปจะดีขึ้นภายใน 7-10 วันโดยไม่ต้องใช้ยาพิเศษ แต่ในบางกรณี โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ EV71 อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้

แนวทางการป้องกัน

โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ หากปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด ดังนี้

  • ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด โดยเฉพาะก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ

  • หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ช้อน ของเล่น

  • ทำความสะอาดพื้นผิวและของเล่นที่เด็กสัมผัสเป็นประจำ

  • แยกเด็กที่มีอาการป่วยออกจากเด็กอื่นทันที และให้หยุดเรียนอย่างน้อย 7 วัน

  • ฝึกเด็กให้รู้จักการปิดปากเวลาไอหรือจาม และไม่ใช้มือสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น

แนวทางการรักษา

ปัจจุบันยังไม่มียารักษาเฉพาะสำหรับโรคนี้ การรักษาจึงเน้นที่การบรรเทาอาการ เช่น

  • ให้เด็กพักผ่อนมาก ๆ

  • ให้ดื่มน้ำมากเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ

  • รับประทานอาหารอ่อน เย็น ไม่เผ็ดหรือรสจัด

  • ใช้ยาลดไข้หรือยาทาแผลในปากตามคำแนะนำของแพทย์

  • หากพบอาการรุนแรง เช่น ซึมมาก อาเจียนต่อเนื่อง ชัก หรือหายใจลำบาก ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์โดยด่วน

แหล่งที่มา :

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ